เจาะลึก 10 สุดยอดเมืองอัจฉริยะโลก 2568: ซูริคครองแชมป์ 5 ปีซ้อน กรุงเทพฯ รั้งอันดับ 86

 

สถาบัน IMD จากสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับเมืองอัจฉริยะโลก (IMD Smart City Index) ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นการประเมินจากมุมมองของประชาชนใน 146 เมืองทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่าเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง ไม่ได้วัดกันที่เทคโนโลยีล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและแก้ปัญหาของคนในเมืองได้อย่างตรงจุด

ภาพรวมผู้นำระดับโลก: ยุโรปยังแกร่ง ตะวันออกกลางมาแรง

กลุ่มเมืองชั้นนำของโลกยังคงเป็นเมืองจากยุโรปที่โดดเด่นด้านความยั่งยืนและคุณภาพชีวิต โดย ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์) ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์อันดับ 1 ได้อย่างเหนียวแน่นเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ตามมาด้วย ออสโล (นอร์เวย์) และ เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์) ในอันดับที่ 2 และ 3 ซึ่งทั้งสามเมืองนี้ได้รับการประเมินในระดับสูงสุด (AAA) ทั้งในด้านความเป็นเมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี

ที่น่าจับตามองคือเมืองจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่าง ดูไบ และ อาบูดาบี ที่ก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ใน Top 5 (อันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ) สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนมหาศาลในการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาปรับใช้ในบริการภาครัฐและชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพ

10 อันดับเมืองอัจฉริยะโลก ประจำปี 2568

  1. ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)

  2. ออสโล (นอร์เวย์)

  3. เจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์)

  4. ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

  5. อาบูดาบี (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

  6. ลอนดอน (อังกฤษ)

  7. โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)

  8. แคนเบอร์รา (ออสเตรเลีย)

  9. สิงคโปร์

  10. โลซาน (สวิตเซอร์แลนด์)

เสียงสะท้อนจากพลเมือง: "ที่อยู่อาศัย" คือปัญหาใหญ่ของคนเมืองทั่วโลก

สิ่งที่น่าสนใจจากการสำรวจในปีนี้คือ ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่พัฒนาแล้วระดับท็อปของโลกหรือเมืองอื่นๆ ปัญหาที่ประชาชนกังวลมากที่สุดกลับเป็นเรื่องพื้นฐานอย่าง "ที่อยู่อาศัยราคาจับต้องได้" ซึ่งติดอันดับความกังวลสูงสุดในแทบทุกเมืองชั้นนำ ตามมาด้วยปัญหาการจราจร, ระบบสาธารณสุข และการจ้างงาน

กรุงเทพมหานคร: อันดับ 86 กับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย

สำหรับ กรุงเทพมหานคร ถูกจัดอยู่ใน อันดับที่ 86 จาก 146 เมืองทั่วโลก โดยได้รับการประเมินในระดับ B สำหรับด้านเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง โดยเฉพาะด้าน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และ บริการทางการแพทย์ออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักของกรุงเทพฯ มาจากมุมมองของประชาชนที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับปัญหาเร่งด่วน 3 ด้าน ได้แก่:

  1. มลพิษทางอากาศ (63%)

  2. ความปลอดภัย (52%)

  3. การทุจริต (51%)

บทสรุปสำหรับนักพัฒนาเมืองไทย

ผลการจัดอันดับชี้ให้เห็นว่า หัวใจของการเป็น "เมืองอัจฉริยะ" ที่ประสบความสำเร็จ คือการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาพื้นฐานและยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมือง การมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดี (เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง) เป็นเพียงก้าวแรก แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการนำข้อมูลและเทคโนโลยีนั้นมาใช้แก้ปัญหาสำคัญที่ประชาชนเผชิญอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย การเดินทาง หรือการเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างเท่าเทียมและโปร่งใส ซึ่งนี่คือโจทย์ใหญ่ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนกรุงเทพฯ และเมืองอื่นๆ ในประเทศไทยสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่สำหรับทุกคนอย่างแท้จริง