Eden Project Morecambe พลังธรรมชาติและนวัตกรรม พลิกโฉมเมืองชายทะเลสู่แลนด์มาร์กโลก
วันนี้เราจะพาไปดูเมกะโปรเจกต์ "Eden Project Morecambe" ณ เมืองมอร์คัมบ์ ประเทศอังกฤษ ที่ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ แต่เป็นโมเดลการ "ฟื้นฟูเมือง" (Urban Regeneration) ที่น่าจับตา โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และธรรมชาติเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของผู้คน
ไฮไลท์สำคัญใน 1 นาที
สถาปัตยกรรมแห่งอนาคต: แลนด์มาร์กแห่งใหม่นี้โดดเด่นด้วยอาคารรูปทรง "เปลือกหอย" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติริมอ่าว ทำให้ตัวอาคารผสานเป็นส่วนหนึ่งของทิวทัศน์ได้อย่างกลมกลืน
นวัตกรรมสร้างประสบการณ์ (Immersive Experience): ภายในไม่ได้มีแค่สวนสวย แต่แบ่งเป็นโซนที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริง เช่น:
Realm of the Sun (โลกแห่งพระอาทิตย์): โซนสว่างไสวที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและงานศิลปะ
Realm of the Moon (โลกแห่งพระจันทร์): สร้างความลึกลับน่าค้นหาด้วย "สระหินเสมือนจริง" ที่ใช้เทคโนโลยีแสง สี เสียง จำลองการขึ้น-ลงของน้ำทะเล ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสำรวจโลกใต้ทะเล
เครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่: โครงการนี้ถูกวางให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนและฟื้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของเมือง โดยตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจน:
ดึงดูดนักท่องเที่ยว 750,000 คนต่อปี
สร้างงานใหม่กว่า 1,250 ตำแหน่ง
สร้างเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจท้องถิ่นกว่า £150 ล้านต่อปี (ประมาณ 6.9 พันล้านบาท)
ต้นแบบการพัฒนาเมืองยั่งยืน: รัฐบาลอังกฤษอัดฉีดงบประมาณ £50 ล้าน (ประมาณ 2.3 พันล้านบาท) เพราะมองว่านี่คือต้นแบบของการใช้ "วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม" เป็นเครื่องมือในการยกระดับเมืองอย่างยั่งยืน
ข้อมูลโครงการ:
มูลค่ารวม: 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.6 พันล้านบาท)
สถานะปัจจุบัน: เริ่มการสำรวจและเตรียมพื้นที่ก่อสร้างแล้ว
เริ่มก่อสร้างหลัก: ฤดูร้อนปี 2026
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ปลายปี 2028
บทสรุปสำหรับชาวไทยสมาร์ทซิตี้:
Eden Project Morecambe คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล แต่ยังรวมถึงการสร้าง "แลนด์มาร์กที่มีชีวิต" ซึ่งสามารถผสานเทคโนโลยี ศิลปะ และสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในระยะยาว นับเป็นกรณีศึกษาที่เมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ควรจับตามองอย่างใกล้ชิด