ไฟฟ้าไทยเปลี่ยนใหญ่! เร่งเครื่องพลังงานสะอาด-ค่าไฟลด-เทรนด์ผลิตใช้เองมาแรง

 

ธุรกิจโรงไฟฟ้าของไทยกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ มุ่งหน้าสู่ยุคคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon) เต็มตัว โดยมี 3 เทรนด์หลักที่น่าจับตา ดังนี้:

1. 🌍 พลังงานสะอาดโตแรง (The Renewable Boom)

นี่คือเทรนด์ที่ชัดเจนที่สุด ภาคธุรกิจกำลังเร่งขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะ พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) และ พลังงานลม

  • เม็ดเงินมหาศาล: คาดการณ์ว่าเฉพาะในปี 2569 จะมีการลงทุนติดตั้งโรงไฟฟ้าสะอาดใหม่ (สัญญา 1,103 MW) คิดเป็นมูลค่า ไม่ต่ำกว่า 52,000 ล้านบาท

  • เติบโตต่อเนื่อง: ในระยะกลาง (ปี 2570-2573) คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มอีกปีละ 43,000 - 56,000 ล้านบาท จากโครงการรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ (Big lot)

2. 💡 ข่าวดี: ค่าไฟมีแนวโน้ม "ลดลง"

สวนทางกับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ คาดการณ์ว่าค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงครับ

  • ปี 2569: คาดว่าค่าไฟเฉลี่ยจะลดลงมาอยู่ที่ราว 3.93 บาทต่อหน่วย

  • ปี 2570-2572: คาดว่าจะทยอยลดลงอีก อยู่ในช่วง 3.70 - 3.85 บาทต่อหน่วย

  • ปัจจัยหนุน: ต้นทุนก๊าซธรรมชาติ (JKM) ในตลาดโลกที่ลดลง, นโยบายภาครัฐที่พยายามตรึงราคา และการบริหารจัดการหนี้ของ กฟผ.

3. 🏠 เทรนด์ "ผลิตไฟใช้เอง" โตแซงระบบหลัก

นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญมาก การใช้ไฟฟ้าในระบบหลัก (ผ่านการไฟฟ้าฯ) เติบโตช้ามาก (เพียง 0.3% ในปี 69) สอดคล้องกับ GDP ที่โตต่ำ

แต่ในทางกลับกัน การผลิตไฟฟ้าใช้เอง (Off-grid) หรือการซื้อไฟกันเองโดยไม่ผ่านระบบหลัก กำลังเติบโตสูงอย่างชัดเจน

  • โตสูงกว่า: คาดว่าการผลิตใช้เองจะโต 2.4% ในปี 69 และเฉลี่ย 3.3% ต่อปี ในช่วงปี 70-72

  • ใครขับเคลื่อน?: ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในนิคมฯ ที่หันไปใช้ระบบ Solar Rooftop, การซื้อขายไฟกันเอง (Private PPA) และการซื้อไฟตรงจากผู้ผลิต (SPP Direct)

🎯 ก้าวต่อไปสู่ Net Zero: นโยบายต้องชัด

การจะบรรลุเป้าหมาย Net Zero (คาร์บอนเป็นศูนย์) ในปี 2593 (2050) ภาครัฐและเอกชนต้องเดินหน้าเต็มที่

สิ่งที่เอกชนต้องปรับตัว:

  1. ลดต้นทุน: พัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรับมือราคารับซื้อไฟในอนาคตที่อาจลดลง

  2. เจาะตลาดใหม่: ผลิตไฟฟ้าสะอาดป้อนอุตสาหกรรมอนาคต เช่น AI & Cloud Data Center ที่ต้องการพลังงานมหาศาล

  3. เตรียมพร้อม: พัฒนาโครงการเพื่อรองรับนโยบายใหม่ๆ เช่น Direct PPA (การซื้อขายไฟฟ้าสะอาดโดยตรง) และ TPA (การใช้โครงข่ายไฟฟ้าส่งไฟให้บุคคลที่สาม)

สิ่งที่ภาครัฐต้องเร่งทำ:

  1. ปลดล็อก TPA และ Direct PPA: เร่งอนุญาตให้มีการซื้อขายไฟฟ้าสะอาดกันเองได้โดยตรง เพื่อกระตุ้นตลาด

  2. อัปเดตแผน PDP ใหม่: แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ ต้องสะท้อนความเป็นจริง (GDP ที่โตช้า, เทรนด์ผลิตไฟใช้เอง) และเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดให้สอดคล้องกับเป้า Net Zero

  3. ส่งเสริมการผลิตใช้เอง: เร่งมาตรการจูงใจ เช่น ลดภาษี 200,000 บาท สำหรับการติดตั้ง Solar Rooftop ภาคครัวเรือน และจัดทำระบบ One-stop service ให้ภาคอุตสาหกรรมติดตั้งได้ง่ายขึ้น

โดยสรุป อนาคตพลังงานไทยกำลังมุ่งสู่ ความยั่งยืน (Renewable) การกระจายศูนย์ (Decentralized) และ ประสิทธิภาพ (Efficiency) มากขึ้นครับ