แพลตฟอร์มข้อมูลเมือง: ผู้ช่วยอัจฉริยะจัดการภัยพิบัติ ไม่ทิ้งกลุ่มเปราะบางไว้ข้างหลัง
ภาพรวม: การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็กเล็ก ในภาวะภัยพิบัติถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลที่กระจัดกระจายและไม่เป็นปัจจุบันอาจทำให้การช่วยเหลือล่าช้าและไม่ทั่วถึง บริษัท เบดร็อค อนาไลติกส์ (Bedrock Analytics) จึงได้พัฒนา "แพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง (City Digital Data Platform: CDDP) ด้านสวัสดิการสังคม" ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
แพลตฟอร์มนี้ทำงานอย่างไร?
CDDP คือระบบศูนย์กลางที่รวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลด้านสวัสดิการสังคมของเมืองไว้อย่างเป็นระบบ โดยนำเสนอข้อมูลกลุ่มเปราะบางแบบเรียลไทม์บนแผนที่ดิจิทัล ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นเห็นภาพรวมทั้งหมดว่าใครอยู่ที่ไหน และต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง ที่สำคัญ แพลตฟอร์มนี้ยังใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์แนวโน้มและวางแผนรับมือได้อย่างแม่นยำ
ฟีเจอร์เด่นที่ตอบโจทย์เมืองอัจฉริยะ:
วางแผนช่วยเหลือ-อพยพอย่างแม่นยำ: เมื่อเกิดภัยพิบัติ ระบบจะแสดงตำแหน่งของกลุ่มเปราะบางทันที ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดลำดับความสำคัญในการเข้าช่วยเหลือและวางแผนเส้นทางอพยพได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงและการสูญเสีย
จัดสรรความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและเป็นธรรม: ข้อมูลที่รวมศูนย์และเข้าใจง่าย ช่วยให้การแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์และการเยียวยาหลังภัยพิบัติเป็นไปอย่างเป็นธรรม ทั่วถึง และตรวจสอบได้ ป้องกันปัญหาการตกหล่น
ภาคประชาชนตรวจสอบสิทธิ์ได้ด้วยตนเอง: ประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิ์และสถานะการรับความช่วยเหลือของตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอดเวลา ช่วยลดภาระงานของเจ้าหน้าที่และเพิ่มความโปร่งใสในการให้บริการ
เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านคลาวด์: แพลตฟอร์มทำงานบนระบบคลาวด์ (Cloud-based) ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและสั่งการได้จากทุกที่ผ่านสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต แม้อยู่นอกสำนักงานหรือในพื้นที่ประสบภัย
กรณีศึกษาความสำเร็จ:
เทศบาลตำบลลำพญา จ.นครปฐม ได้นำแพลตฟอร์มนี้ไปใช้ร่วมกับระบบจัดการภัยพิบัติ เพื่อคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า และวางแผนเข้าช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด ทำให้การบริหารจัดการสถานการณ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทสรุปสำหรับ Smart City:
แพลตฟอร์ม CDDP ด้านสวัสดิการสังคม คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับการบริหารจัดการเมืองให้เป็น "เมืองอัจฉริยะที่ใส่ใจ" (Caring Smart City) อย่างแท้จริง โดยใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นหัวใจในการดูแลประชากรกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าในทุกวิกฤต จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง