อปท. ทั่วไทย ยกเครื่อง "Smart Governance" สู้ภัยน้ำท่วมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศกำลังหันมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับการบริหารจัดการภาครัฐให้เป็น "Smart Governance" หรือการบริหารภาครัฐอัจฉริยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วม เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านจากการแก้ปัญหาแบบเดิมไปสู่การบริหารจัดการเชิงรุกที่ใช้ข้อมูลเป็นฐาน
บริษัท เบดร็อค อนาไลติกส์ ได้รวบรวมกรณีศึกษาที่น่าสนใจจาก อปท. ต่างๆ ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในการจัดการน้ำท่วมได้อย่างเป็นรูปธรรม
เจาะลึก 5 โมเดล อปท. ต้นแบบจัดการน้ำท่วมอัจฉริยะ
1.เทศบาลตำบลลำพญา จ.นครปฐม:
- เทคโนโลยี: พัฒนา "ระบบจัดการภัยพิบัติ" บนแพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (CDDP) ที่ใช้ AI และ Machine Learning วิเคราะห์ Big Data เช่น แผนที่ภูมิประเทศ, ประวัติน้ำท่วม, และข้อมูลดาวเทียม
- ผลลัพธ์: สามารถคาดการณ์สถานการณ์น้ำท่วมได้แบบเรียลไทม์ ทำให้วางแผนรับมือ, ช่วยเหลือ, และกำหนดจุดอพยพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
2.เทศบาลนครยะลา จ.ยะลา:
- เทคโนโลยี: ติดตั้ง "ระบบบริหารจัดการภัยพิบัติครบวงจร" โดยใช้เซนเซอร์วัดระดับน้ำ (โทรมาตร) ในจุดสำคัญ แล้วเชื่อมข้อมูลเข้ากับแพลตฟอร์มกลาง
- ผลลัพธ์: สามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้ตลอดเวลา, คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง, และแจ้งเตือนประชาชนได้ทันทีเมื่อระดับน้ำถึงเกณฑ์ที่กำหนด ช่วยให้การช่วยเหลือเข้าถึงครัวเรือนที่เดือดร้อนได้โดยตรง
3.เทศบาลเมืองแม่โจ้ จ.เชียงใหม่:
- เทคโนโลยี: ติดตั้งสถานีตรวจวัดอากาศ "Maejo Weather Station" บนเสาอัจฉริยะ เพื่อติดตามข้อมูลอุตุนิยมวิทยาแบบเรียลไทม์
- ผลลัพธ์: สามารถเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำท่วม พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลสภาพอากาศให้ประชาชนทราบได้อย่างรวดเร็วผ่านช่องทางของเทศบาล
4.เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น:
- เทคโนโลยี: ใช้ "แพลตฟอร์มดิจิทัลข้อมูลเมือง (CDDP)" เป็นฐานข้อมูลกลาง รวบรวมข้อมูลเมืองกว่า 100 ชั้นข้อมูลไว้ในที่เดียว
- ผลลัพธ์: ทำให้เทศบาลสามารถบริหารจัดการเมืองโดยใช้ข้อมูลเป็นฐาน (Data-Driven) สามารถวิเคราะห์, วางแผน, และติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.เทศบาลตำบลป่าแดด จ.เชียงใหม่:
- เทคโนโลยี: พัฒนา "ระบบบริหารจัดการทรัพย์สินอัจฉริยะ" เพื่อดูแลโครงสร้างพื้นฐานของเทศบาล เช่น ถนน, ท่อระบายน้ำ, และกล้องวงจรปิด
- ผลลัพธ์: ช่วยให้เทศบาลตรวจสอบสถานะของทรัพย์สินได้แบบเรียลไทม์ ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมใช้งานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และสามารถวางแผนฟื้นฟูซ่อมแซมหลังน้ำลดได้อย่างรวดเร็ว
บทสรุปสำหรับ "ไทยสมาร์ทซิตี้"
การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในรูปแบบ **Smart Governance** ของ อปท. ต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนโฉมการบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่นับวันจะรุนแรงขึ้น กรณีศึกษาเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), AI, IoT และแพลตฟอร์มข้อมูลเมือง ไม่เพียงแต่ช่วยให้การตัดสินใจรวดเร็วและแม่นยำขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร, การสื่อสารกับประชาชน, และการวางแผนฟื้นฟูในระยะยาว ซึ่งทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืนและปลอดภัยสำหรับทุกคน