"China Inside" โมเดลเปลี่ยนโลกยานยนต์ เมื่อยักษ์ใหญ่ต้องยอมซื้อเทคโนโลยี EV จีน

 

ในฐานะบรรณาธิการข่าวเทคโนโลยี ผมขอสรุปปรากฏการณ์ "China Inside" ที่กำลังสั่นสะเทือนอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ครับ

เกิดอะไรขึ้น?

โลกกำลังเข้าสู่ยุค "China Inside" อย่างเต็มตัว จากเดิมที่แบรนด์รถยนต์ตะวันตกเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ตอนนี้พวกเขากำลัง "ยอมถอย" และหันไปซื้อเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สำเร็จรูปจากบริษัทจีน เพื่อความอยู่รอดในสนามแข่งที่ดุเดือด นี่คือการเปลี่ยนขั้วอำนาจครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์

จุดเปลี่ยนสำคัญ: กรณีศึกษาของ Audi

จุดเริ่มต้นที่ชัดเจนคือเมื่อผู้บริหาร Audi จากเยอรมนี ได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าจีนอย่าง Zeekr 001 ในปี 2021 พวกเขาตระหนักทันทีว่าเทคโนโลยีของจีนล้ำหน้าไปไกล และการจะพัฒนาเองให้ทันนั้นทั้งช้าและใช้งบมหาศาล

ผลลัพธ์: Audi เลือกทางลัดโดยร่วมมือกับ SAIC พันธมิตรในจีน พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า AUDI E5 Sportback โดยใช้เทคโนโลยีหลักทั้งหมดจากจีน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่, มอเตอร์, ซอฟต์แวร์ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทำให้พัฒนารถรุ่นใหม่ได้ในเวลาเพียง 18 เดือน

ไม่ใช่แค่ Audi แต่เป็นเทรนด์ระดับโลก

  • Volkswagen จับมือกับ Xpeng

  • Toyota ร่วมมือกับ GAC

  • Renault นำแพลตฟอร์มจาก Dongfeng มาผลิตรถขายในยุโรป

  • Ford และ Stellantis (เจ้าของ Peugeot, Jeep) ก็กำลังเจรจาและร่วมมือกับบริษัทจีนเช่นกัน

โมเดลธุรกิจ "China Inside" คืออะไร?

ให้นึกถึงแคมเปญ "Intel Inside" ในอดีตที่บ่งบอกว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้ชิปจาก Intel แต่ "China Inside" คือการที่บริษัทจีน "ขายเทคโนโลยี EV แบบยกชุด" ประกอบด้วย:

  1. แชสซี (โครงสร้างพื้นฐานของรถ)

  2. แบตเตอรี่

  3. ซอฟต์แวร์พื้นฐาน

จากนั้นค่ายรถยนต์ต่างๆ สามารถนำไปพัฒนาต่อยอด ใส่ดีไซน์ และติดแบรนด์ของตัวเองเพื่อวางขายได้ทันที

ทำไมถึงเป็น Win-Win Solution?

  • ฝั่งแบรนด์ตะวันตก: ได้ทางลัดสู่ตลาด EV ประหยัดเวลาและงบประมาณมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา สามารถเปิดตัวรถรุ่นใหม่ได้ทันความต้องการของตลาด

  • ฝั่งแบรนด์จีน: ได้รายได้และกระแสเงินสดก้อนโต เพื่อไปต่อสู้ในสงครามตัดราคาที่รุนแรงในประเทศ และรับมือกับแรงกดดันทางการค้านอกประเทศ

ความเสี่ยงและความท้าทาย

แม้จะเป็นทางลัดที่น่าสนใจ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้เชี่ยวชาญกังวล:

  • การสูญเสียตัวตน (Brand Identity): การพึ่งพาเทคโนโลยีจากภายนอกมากเกินไป อาจทำให้แบรนด์ดั้งเดิมขาดจิตวิญญาณและเอกลักษณ์ของตัวเอง ในระยะยาวอาจถูกลดบทบาทเหลือเพียง "ผู้จัดจำหน่าย"

  • การสร้างความแตกต่าง: เมื่อพื้นฐานเทคโนโลยีมาจากที่เดียวกัน การสร้างความโดดเด่นและจุดขายที่แตกต่างจะกลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายยิ่งขึ้น

บทสรุปสำหรับโลก Smart City

ปรากฏการณ์ "China Inside" ไม่ใช่เรื่องของอนาคต แต่มันได้เกิดขึ้นแล้ว และจะส่งผลให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค EV ทั่วโลก รวมถึงในไทย เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เราจะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ค่ายรถยนต์ดั้งเดิมก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัว เพื่อผสานเทคโนโลยีจากจีนเข้ากับนวัตกรรมและ DNA ของตนเอง เพื่อไม่ให้ถูกคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงกลืนหายไปในที่สุด