กระทรวงพลังงาน ชง 4 โครงการ "โซลาร์" อัดฉีด 5 หมื่นล้าน ปูพรม "Smart Energy" ทั่วไทย
กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอ 4 โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ล็อตใหญ่เข้า ครม. ภายใต้นโยบาย "Quick Big Win" ครับ นี่คือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 5 หมื่นล้านบาท และที่สำคัญคือ มันเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะขับเคลื่อน "ไทยแลนด์สมาร์ทซิตี้" ในมิติ Smart Energy และ Smart Environment อย่างเป็นรูปธรรม
ผมขอสรุป 4 โครงการไฮไลต์ที่เชื่อมโยงกับมิติ "เมืองอัจฉริยะ" ให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ครับ:
1. Smart Energy & Environment: โซลาร์ฟาร์มชุมชน (3 หมื่นล้าน)
นี่คือโครงการที่ใหญ่ที่สุด (1,500 MW) โดยให้เอกชนลงทุนสร้างฟาร์มพลังงานสะอาด
- มิติ Smart City: เป็นการสร้าง "โครงสร้างพื้นฐานพลังงานอัจฉริยะ" (Smart Energy Infrastructure) ในระดับชุมชน ไม่ใช่แค่สร้างงาน 1,700 ตำแหน่ง แต่ชุมชนใกล้เคียงจะได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่ถูกลง (ลด 80 สตางค์/หน่วย) และยังช่วยลด CO2 ได้เกือบ 1 ล้านตันต่อปี ถือเป็นการพัฒนา "สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ" (Smart Environment) ที่ชัดเจน
2. Smart Living & Economy: โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร (1.2 หมื่นล้าน)
เปลี่ยนภาคเกษตรกรรมให้ "สมาร์ท" ขึ้น ด้วยระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ 1,200 ระบบ
- มิติ Smart City: ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต (Smart Living) และเศรษฐกิจฐานราก (Smart Economy) ให้กับเกษตรกรโดยตรง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุนพลังงาน
3. Smart Citizen: โซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชน (1.08 หมื่นล้าน)
กระตุ้นให้คนในเมืองและบ้านอยู่อาศัย หันมาเป็น "Prosumer" (ผู้ผลิตและผู้บริโภคพลังงาน) ด้วยการติดโซลาร์บนหลังคา
- มิติ Smart City: สร้างการมีส่วนร่วมของพลเมือง (Smart Citizen) ในการผลิตพลังงานสะอาด รัฐช่วยสนับสนุนด้วยมาตรการลดหย่อนภาษี (สูงสุด 2 แสนบาท) ทำให้เกิด "พลังงานแบบกระจายศูนย์" (Decentralized Energy) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Smart Grid ในเมืองอัจฉริยะ
4. Smart Governance: โซลาร์สำหรับหน่วยงานรัฐ
ให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้นำในการติดตั้งและใช้พลังงานสะอาด
- มิติ Smart City: นี่คือ "การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ" (Smart Governance) ที่ชัดเจนครับ เมื่อภาครัฐลดภาระค่าไฟได้มหาศาล (คาดว่ากว่า 9,000 ล้านบาท/ปี) ก็เท่ากับเป็นการใช้ทรัพยากรและงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
บทสรุปสำหรับ Smart City
โครงการทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่การลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่คือการวางรากฐาน "Smart Energy" ที่จับต้องได้ และกระจายตัวไปทั่วทั้งระดับชุมชน เกษตรกร ครัวเรือน และภาครัฐ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น "ศูนย์กลางพลังงานสะอาด" (Clean Energy Hub) ของภูมิภาคครับ