ดีป้า ต่อยอด "ทุเรียนดิจิทัล" ปูพรมเกษตรอัจฉริยะทั่วไทยด้วย IoT และ Big Data

 

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กำลังขยายผลโครงการ "1 ตำบล 1 ดิจิทัล (OTOD ทุเรียนดิจิทัล)" ทั่วประเทศ หลังประสบความสำเร็จในโครงการนำร่อง 8 จังหวัด โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับสวนทุเรียนไทยสู่ เกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างโอกาสใหม่ในตลาดออนไลน์

ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ

  • เทคโนโลยีหลัก
    • ระบบ IoT จัดการน้ำอัจฉริยะ: ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ, ความชื้นในอากาศและในดินแบบเรียลไทม์ เกษตรกรสามารถดูข้อมูลและสั่งการระบบให้น้ำผ่านสมาร์ทโฟนได้โดยตรง ช่วยให้การให้น้ำแม่นยำ ประหยัดทรัพยากร และลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศ
    • แอปพลิเคชันเพาะปลูก: ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น การให้ปุ๋ย การให้น้ำ และการเติบโตของผลผลิต เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนการเพาะปลูกในอนาคต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ "เกษตรแม่นยำ (Precision Farming)"
เป้าหมายของโครงการ

  1. เพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยให้เกษตรกรจัดการสวนได้อย่างแม่นยำ ลดการสูญเสีย และเพิ่มคุณภาพของผลผลิต
  2. ลดต้นทุน: บริหารจัดการน้ำและปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
  3. สร้างรายได้: ส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลและการตลาดออนไลน์ (E-commerce) เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่ดีขึ้นและเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง

  • การขยายผล: จากความสำเร็จใน 8 จังหวัดหลัก (ชุมพร, นครศรีธรรมราช, ยะลา, ระยอง, ปราจีนบุรี, จันทบุรี, ตราด และศรีสะเกษ) ดีป้าได้เดินหน้าขยายโครงการไปทั่วประเทศ พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากเกษตรกรเพื่อนำไปปรับปรุงให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่

สำหรับเกษตรกรที่สนใจ

เกษตรกรชาวสวนทุเรียนสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 06 1423 9055 และ 09 2955 9478

บทวิเคราะห์ (สำหรับ Thai Smart City): โครงการ "ทุเรียนดิจิทัล" ถือเป็นโมเดลต้นแบบที่สำคัญในการขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมของไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม การนำเทคโนโลยี IoT และการใช้ข้อมูล (Data-Driven) มาปรับใช้ ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเกษตรกร แต่ยังเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน และสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในมิติด้านเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) อีกด้วย