ไทยเร่งเครื่องเทคโนโลยี BESS สู่สังคมคาร์บอนต่ำ

 

ประเทศไทยกำลังเดินหน้าอย่างจริงจังในการพัฒนา ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) ขนาดใหญ่ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด (Energy Transition) และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในอนาคต

BESS: หัวใจสำคัญของพลังงานหมุนเวียน

  • สร้างเสถียรภาพพลังงาน: BESS เป็นเทคโนโลยีที่ขาดไม่ได้ในการจัดการความผันผวนของพลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์และลม ทำให้ไฟฟ้ามีความเสถียรและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ช่วยลดความผันผวนของระบบและเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน
  • ลดค่าใช้จ่าย: ระบบ BESS ช่วยให้สถานประกอบการสามารถกักเก็บไฟฟ้าในช่วงที่ผลิตเกินความต้องการ (หรือค่าไฟถูก) และปล่อยไฟฟ้ากลับมาใช้ในช่วงเวลาพีค (ค่าไฟแพง) เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงสุด

ภาคเอกชนไทยขับเคลื่อนเต็มตัว

  • SCG นำร่อง: ONNEX by SCG ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Sigenergy Technology บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากจีน เพื่อพัฒนาระบบ BESS ขนาด 50 เมกะวัตต์ชั่วโมง (50 MWh) สำหรับภาคอุตสาหกรรมไทยโดยเฉพาะ
  • เป้าหมาย Net Zero: การลงทุนนี้สอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดของ SCG และเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ซึ่งเป็นการตอกย้ำบทบาทของภาคเอกชนในการสร้าง โครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด (Clean Energy Infrastructure)

เทคโนโลยีล้ำสมัยที่นำมาใช้

Sigenergy Technology ชี้ให้เห็นถึงความได้เปรียบทางเทคนิคของระบบ BESS ที่กำลังพัฒนา โดยมีเทคโนโลยีหลักที่น่าจับตา ได้แก่:

  1. DC Coupling: ช่วยลดเงินลงทุนได้มากกว่า 21% เนื่องจากไม่ต้องติดตั้งตู้ MDB และสายไฟฟ้าของระบบ AC Coupling ทำให้การติดตั้งง่ายและประหยัดกว่า
  2. Modular Design: ออกแบบให้สามารถเพิ่มหรือลดขนาดของแบตเตอรี่ได้ตามความต้องการใช้งานอย่างยืดหยุ่น
  3. ระบบ AI: วิเคราะห์ข้อมูลพลังงานแบบเรียลไทม์ และคาดการณ์การใช้พลังงานล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
  4. Zero Millisec Power Injection: อัลกอริทึมขั้นสูงที่รับประกันการจ่ายพลังงานอย่างต่อเนื่องแม้ในขณะไฟฟ้าดับ
  5. Function V2X (Vehicle-to-Everything): เตรียมรองรับอนาคตด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้เป็นแหล่งพลังงานอัจฉริยะที่สามารถจ่ายไฟกลับเข้าบ้านได้

รากฐานสู่อนาคตอัจฉริยะ

การพัฒนาระบบ BESS ไม่ได้จบลงแค่การกักเก็บพลังงาน แต่เป็นรากฐานสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่:

  • Smart Grid และ Smart City: เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะและเมืองอัจฉริยะในอนาคต
  • โครงสร้างพื้นฐาน EV: รองรับการเชื่อมต่อกับ EV Charging Infrastructure และ อาคารอัจฉริยะ (Smart Building) สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ของประเทศที่เน้นการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน

การลงทุนใน BESS จึงเป็นก้าวสำคัญของไทยในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พัฒนาภาคอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน